วันเสาร์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

เรียนรู้กับครูปอ เรื่องการตัดต่อวิดีโอเบื้องต้น


คลิปเก่า เอามาเล่าที่ใหม่ หุหุ
  คลิปสอนการตัดต่อวิดีโอด้วยยูหลีดเบื้องต้นค่า ทำไว้ ๒ คลิป รับชมและรับฟังได้แล้วค่ะ ^____^
คลิปแรกอธิบายความสามารถของโปรแกรม Ulead จ้า
คลิปนี้สอนการตัดต่อขั้นพื้นฐาน ตั้งแต่แทรกไฟล์ภาพ วิดีโอ และเสียง ตัดต่อ ใส่ข้อความ เอฟเฟค และเรนเดอร์ (หรือแชร์) จ้า

รู้จักครูปอ...Krupor


อ่านแล้วจะได้รู้จัก ถ้าอยากจะรู้ใจ…
     พรรณนาประวัติครูปอ โดยย่อ…ย่อแล้วน๊า …จากอาชีพครู สู่ครูมืออาชีพนับ ๑๓ ปี นับตั้งแต่เป็นครู
ครูปอ หรืออาจารย์ปอ…เด็ก ๆ มัธยมฯ จะเรียกอาจารย์ เด็กประถมฯ จะเรียกครู แต่โดยส่วนตัวจะใช้แทนตัวเองว่าครู เพราะดูขลังกว่า
ก่อนก้าวสู่อาชีพครู…เริ่มตั้งแต่เรียนจบมา จริง ๆ ไม่ได้จบเอกครูโดยตรง แต่เรียนมาทางด้านคอมพิวเตอร์ (ระบบสารสนเทศ) ก่อนมาเรียนสารสนเทศที่ราชมงคล คลองหก ก็เรียน ปวช. ปวส. ที่วิทยาเขตบพิตรพิมุข จักรวรรดิ สาขาการเลขานุการ ตอนแรกมาเรียนแบบงง ๆ จะเรียน เทคนิคฯ แถวบ้าน แม่ก็กลัวจะไม่จบ เพราะเห็นตัวอย่างเด็กแถวบ้าน หลาย ๆ คน ประจวบเหมาะกับพี่สาวเรียนจบ ม.๖ พอดี เลยให้เข้ามาเรียนเป็นสาวกรุงเทพฯ ทั้งสองคน มาอยู่กับป้า ป้าเป็นคนพามาสมัครเรียน…ชุดนักเรียนสาวเทคโนฯ หรืออาชีวะฯ อื่น ๆ ที่ กทม. ดีอย่างหนึ่งที่ใส่ชุดเหมือนนักเรียน ม.ปลาย เลยทำให้เราดูไม่เป็นสาวเร็ว เหมือนสาวเทคนิคฯ แถวบ้าน…ดูใส ๆ 555 พอจบ ปวส. ก็คิดว่าจะเรียนอะไรต่อดี เพราะในระดับปริญญาตรีไม่มีวิชาเอกนี้แล้ว ตอนนั้นก็งง ๆ มึน ๆ กับตัวเอง นี่เป็นข้อเสียของคนที่ไม่มีเป้าหมายในชีวิตเหมือนกัน เพราะทำให้เราเปะปะไปเรื่อย ดีที่มีเพื่อนดี ๆ นำทาง ชวนมาสอบเข้าเอกสารสนเทศ ทั้ง ๆ ที่ ฟังชื่อแล้วไม่เห็นจะเป็นคอมพิวเตอร์ตรงไหนเลย แต่เราก็สนใจ เห็นว่าเป็นคอมพิวเตอร์ในอนาคตน่าจะมีความสำคัญ แล้วตัวเองก็ยังไม่เข้าใจ ไม่รู้เรื่องคอมพิวเตอร์เลย เรียนแต่พื้นฐาน วินโดวส์ ดอสในสมัยนั้น วินโดวส์ 3.11 ใช้ยากมากกกกก เมาส์ก็ไม่มีให้ใช้ ต้องจำคีย์ลัด Alt+… , Ctrl+… แต่ในความยากก็มีประโยชน์ที่ทำให้เราเข้าใจได้ลึกซึ้ง และใช้คีย์ลัดต่าง ๆ ได้ดี กว่าเด็กรุ่นใหม่ ๆ อิอิ
อาจจะเกริ่นยาวไปนิดนึง ก็เพื่อให้เห็นแนวทางการดำเนินชีวิตของครูคนนี้ตั้งแต่ช่วงวัยรุ่น จนกระทั่งทำงานเป็นคุณครูในปัจจุบัน
ครูอัตราจ้าง..ตอนเรียนจบมา อาชีพในฝันแน่นอนอยากเป็นสาวออฟฟิศ เป็นเลขานุการ เพราะถนัดงานเอกสาร พิมพ์คล่อง พิมพ์เร็ว (ก็เรียนเลขาฯ ๕ ปี เรียนพิมพ์ดีดเกือบทุกปี ทั้งไทย อังกฤษ พิมพ์คล่องปรื๋อ…มีเทคนิคพิมพ์เร็วจะมาบอก ไว้โพสต์หน้าละกัน จะได้เข้าประเด็นต่อ…) จบใหม่ ๆ ก็ตระเวนหางานที่ กทม. แต่ทำไมงานหายากจัง เรียนคอมฯ ก็ไม่เก่งเขียนโปรแกรม ฐานข้อมูลก็อ่อน แต่ที่ชอบและถนัดก็คือการทำเอกสารคู่มือการใช้งานโปรแกรมต่าง ๆ ชอบทำเว็บฯ ออกแบบงานกราฟิกต่าง ๆ มากกว่า แต่ก็ไม่คิดว่าจะได้ใช้ประโยชน์ ในที่สุดก็ต้องกลับบ้านเรา …ถึงจะไม่ใช่โครงการบัณฑิตรักถิ่น แต่ก็ลองกลับมาอยู่บ้าน เผื่อจะมีงานอะไรให้ทำบ้าง มีสอบอะไรที่ไหนก็ไปสอบมาหมดละ …อยู่บ้านไม่ถึงเดือน ก็ได้รู้จักกับอาจารย์ที่โรงเรียนสตรีประเสริฐศิลป์ จ.ตราด (อ.วิเชษฐ์ สมัยนั้น ตอนนี้เป็น ผอ. โรงเรียนกีฬาฯ ไปแล้ว …ยินดีด้วยค่า) พอดีครูคอมฯ ย้ายกลับบ้าน ขาดครูคอมฯ ก็เลยชวนให้ไปลองสอนดู แรก ๆ ก็คิดหนัก จะสอนเด็กได้หรอ วิชาชีพครูก็ไม่เรียนมา อาศัยจำบทบาทครูที่เราเคยเรียน แล้วลองคิดในมุมมองของตัวเองตอนเด็ก ๆ ว่า จะสอนอย่างไร อธิบายอย่างไร จะประยุกต์ใช้โปรแกรมในการสร้างชิ้นงานอะไรได้บ้าง ที่จำเป็น ส่วนใหญ่ก็แผ่นพับ นามบัตร ส่วนการเขียนแผนฯ ก็เขียนไม่เป็น รองฯวิชาการช่วยหาแผนการสอนมาให้ อ่านแล้วก็งง ๆ ^^’ เทอมแรกเข้ามาก็สอนแค่โปรแกรมเวิร์ด เพราะใช้คล่องอยู่โปรแกรมเดียว วิชาคอมพิวเตอร์สมัยนั้น ออฟฟิศมาแรงสุด เด็ก ๆ ยังใช้กันไม่ได้ มีแข่งขันอะไรก็จะเป็นโปรแกรมพื้นฐานพวกนี้ เคยลองสอนดอส ก็เกิดปัญหาว่าเด็กใช้คำสั่ง แล้วทำให้เครื่องมีปัญหา…ก็เลยงดไป…จริง ๆ จบมาก็ลงโปรแกรมและฟอร์แมตเครื่องได้เอง …ส่วนโปรแกรมพื้นฐานก็อย่างที่บอก…ปีต่อ ๆ ไปก็พัฒนามาสอนเพาเวอร์พอยท์ ทั้งที่ใช้ไม่คล่อง แต่ก็เหมือนโดนบังคับกลาย ๆ ต้องไปซื้อหนังสือมาอ่าน หัดทำก่อนเด็ก ก่อนสอน คิดชิ้นงานที่จะให้เด็กทำ จากเรื่องใกล้ ๆ ตัว …ระหว่างนั้นก็หัดทำระบบแลนเองที่บ้าน แบบPeer to Peer เพื่อให้เข้าใจระบบเครือข่ายมากขึ้น หัดประกอบเครื่องเอง โดยได้เพื่อนเก่ง ๆ สมัยเรียนแหล่ะ สงสัยอะไรก็โทรถามเพื่อน ซึ่งเพื่อนเชษฐ์กะเพื่อนหลานก็เป็นกูรูให้เพื่อนปอคนได้ ขอบใจนะจ๊ะเพื่อน จุ๊ฟๆ อิอิ…อีกปี ก็ต้องสอนเอ็กเซล อันนี้ก็ตามเดิม หัดใช้ หัดทำจนเข้าใจ เพื่อใช้สอนเด็ก อันไหนสงสัยก็ถาม …ในเวลาสองสามปีก็ได้เรียนรู้โปรแกรมเพิ่มหลายโปรแกรม ฝึกทักษะเพิ่มเติมที่จำเป็น และชอบ อยากจะเป็น …ต้องขอบคุณอาจารย์ศรศักดิ์อีกคน ที่ให้คำแนะนำ และให้โอกาสให้น้องคนนี้ ได้มีความรู้มากขึ้น เพราะอาจารย์เป็นงานทะเบียนด้วย สอนคณิตฯ ด้วย จริง ๆ อาจารย์เค้าเอกคณิตฯ แต่สนใจคอมพิวเตอร์ เลยได้มาสอนคอมพิวเตอร์ การพิมพ์สูตรต่าง ๆ ในคณิตฯ ก็ได้จากอาจารย์คนนี้แหล่ะ สอนใช้ Equation ทำให้เรารับจ๊อปพิมพ์งานของวิชาคณิตฯ ได้อีกหลายงาน อิอิ…พอปิดเทอมเมื่อไรครูปอเป็นต้องเข้า กทม. หางานใหม่ทุกที แต่ก็พลาดทุทีสิน่า…เพราะปิดเทอมใหญ่ ช่วงซัมเมอร์ก็ไม่ได้เงินเดือน สมัยนั้น ถ้าไม่สมัครอบรมฯ อะไรก็จะว่าง มาก ๆ เงินเก็บที่เก็บไว้ช่วงเปิดเทอม ก็จะหมดเอาช่วงปิดเทอม นี่แหล่ะ ท่องเที่ยวไปกับเพื่อน ๆ บ้าง การเรียนรู้ของครูปอก็ไม่ได้หยุดนิ่งอยู่กับที่ มีอบรมฯ ทำเว็บฯ ที่ ม.ลาดกระบัง ก็สมัครมาอบรมเป็นเดือน แต่เป็นโครงการฟรี เสียแต่ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ค่าอยู่ ค่ากินของเราเองเท่านั้น … อยู่ที่นี่มาหลายปีมีโอกาสได้เข้าร่วมประชุมการจัดทำหลักสูตรฯ สมัยปรับปรุงหลักสูตร ๔๔ ของสาระเทคโนโลยี และพัฒนาตนเองมากมาย …เพื่อนำมาใช้ในการจัดการเรียนการสอน และฝึกทักษะเพื่อส่งนักเรียนเข้าร่วมแข่งขันทักษะวิชาการ เริ่มมีการแข่งขันทำเว็บไซต์โดยใช้โปรแกรมเว็บอีดิทเตอร์ และ HTML คราวนี้ครูปอก็ได้ใช้ความสามารถ และความชอบส่วนตัวมาแต่เดิมอีกครั้งนึง ได้รางวัลมาหลายรายการ แต่เป็นการแข่งขันในระดับจังหวัด หรือพื้นที่ แต่ก็นั่นแหล่ะ เด็ก ๆ ที่นี่ก็เก่ง และตั้งใจอยู่แล้ว เพราะผู้ปกครองสนับสนุน และสนใจการเรียนของบุตรหลานดี แค่ขยันฝึกซ้อม แล้วก็ฟังคำแนะนำของครูเท่านั้น ก็สามารถทำได้แล้ว…
เรียนรู้วิชาชีพครู… สอนได้สองปี รองฯวิชาการ (ป้าหนู รัตนาภรณ์ คงพลิ้ว) ก็แนะนำให้ไปเรียนวิชาชีพครู ตอนแรก ๆ ก็ไม่ได้สนใจอะไร แต่คิดไปคิดมา ดีกว่าอยู่เปล่า ๆ แล้วช่วงนั้น กำลังฮิตเรื่องวุฒิครู ใครจะสอนต้องมีวุฒิครู ก็เลยไปเรียนตามกระแส เรียนแบบสบาย ๆ ไม่ได้เครียดมาก ลงทีละวิชา… ๒ ปีก็จบ (หลักสูตรปีเดียว…ก็บอกแล้วไงว่าไม่ได้ซีเรียสอะไร 5555) มีวุฒิครูแล้ว พอมีเปิดสอบบรรจุ ปีแรก ก็ยังหยิ่ง ไม่สนใจจะสอบบรรจุ พออีกสองปีเปิดอีก ก็คิดว่าเราต้องมีอาชีพที่มั่นคงได้แล้ว ทีนี้ก็ตระเวนสมัครสอบบรรจุละสิ ตั้งแต่ภาคตะวันออกที่เปิดสอบ ครูกทม. ยันหนองคายก็ไปมาแล้ว ไปสมัครสอบมาหมด แต่ไม่ได้สักที่ ที่ไม่ได้นี่ไม่ใช่สอบไม่ได้นะ แต่สมัครสอบไม่ได้ เนื่องจากไม่มีวิชาเอกระบุในคุณสมบัติ จึงสมัครไม่ได้ ทำให้เสียโอกาสไปสองปี หลังจากอกหักเราก็ตรวจสอบวุฒิตัวเองว่าตกลงฉันเรียนอะไรมาเนี่ยะ ดูหน่วยกิตวิชาเขียนโปรแกรม ฐานข้อมูล ระบบสารสนเทศมากมาย …นึกอยากจะเปลี่ยนอาชีพ ก็คงจะไม่ทันแล้ว ทำอาชีพครูมาสี่ปี จนไปทางอื่น ไม่เป็นละ… ระหว่างนั้นก็เรียนต่อ ป.โท ไว้ด้วย เพราะแม่ช่วยออกค่าเทอมให้ ก็ครูอัตราจ้างสมัยนั้น เงินเดือน 6,360 แค่พอใช้เท่านั้นแหล่ะ ให้แม่อีกนิดหน่อย ^^’ (อยู่ที่นี่สอนคอมพิวเตอร์ เด็ก ๆ มีความรับผิดชอบมาก สนใจเรียนดี ขยันถาม จะสอนเหนื่อย เพราะเด็กเยอะมาก ห้องนึงสี่สิบกว่าคน …แต่ส่วนใหญ่จะได้เกรด 3-4 ทั้งนั้น เพราะคะแนนเก็บเต็มเหยียด…ยกเว้นห้องศิลป์ก็จะน้อยมาตามศักยภาพเด็ก)
อาจารย์พิเศษสอน…หลังจากคืนถิ่นสอนที่จังหวัดตัวเองอยู่ ๔ ปี พอมีน้องที่เคยมาสอนโรงเรียนเดียวกับเรา โทรมาชวนให้ไปสอนเด็กอาชีวะฯ ที่จันทบุรี วิทยาลัยการอาชีพสอยดาว ของกรมอาชีวฯ ก็เลยตัดสินใจ ยอมจากบ้านมา เผื่อจะมีอะไรดี ๆ …มาสอนที่นี่ก็ชอบมากนะ สอนเด็กโต ระดับ ปวช. ปวส. เด็กก็มีความรับผิดชอบดี พูดง่าย พูดรู้เรื่อง ใส ๆ เพราะไม่ได้อยู่ในเมืองที่เจริญแล้ว ใกล้เขาสอยดาว อุทยานแห่งชาติที่อุดมสมบูรณ์ทีเดียว….แต่ยกเว้นเด็กช่างฯ ที่เราต้องสอนวิชาพื้นฐานคอมพิวเตอร์ก็พวกโปรแกรมออฟฟิศนั่นแหล่ แต่ครูเองก็ไม่ได้ซีเรียสอะไร เพราะรู้ว่าไม่ใช่ทางของเค้า แค่เรียนให้พอรู้เท่านั้น รับผิดชอบสอนวิชาคอมพิวเตอร์อย่างเดียว แต่เดี๋ยวนี้มีเงินเดือนตลอด แถมเงินนอกเวลาที่สอนเกินอีก อยู่แบบสบาย ๆ …มีส่งนักเรียนเข้าร่วมแข่งขันระดับจังหวัดได้เป็นรางวัลชนะเลิศการสร้างแผ่นพับด้วยโปรแกรมเวิร์ด และได้มีโอกาสเป็นกรรมการตัดสินอีกด้วย…ได้ช่วยน้อง ๆ ในกิจกรรมอื่น ๆ เนื่องจากที่นี่มีแต่ครูอายุน้อย ๆ ไล่เลี่ยกัน ทำงานมีความสุขมาก …แต่มาอยู่ที่นี่ อายุ ๒๖ ก็เป็นพี่เค้าหมดละ…จากที่โรงเรียนก่อนเป็นน้องมาตลอด รู้สึกว่าตัวเองดูแก่ไปเลย 5555 ….อีกสองปีต่อมามีสอบบรรจุก็เริ่มหาซื้อหนังสือเตรียมสอบมาอ่าน สอบรอบแรกที่ กทม. พร้อมกันทั่วประเทศ คราวนี้มีวิชาเอกเราแล้ว เย้เย้..ดีใจสุด ๆ นึกว่าจะไม่มีสิทธิ์สอบบรรจุกับเค้าซะแล้ว ชาตินี้ 5555 มีคนสอบเยอะมาก แต่พอประกาศมีคนสอบได้ไม่กี่คน…ที่นี้อีกปีเลยต้องเปิดสอบอีกรอบ เขตพื้นที่ใครพื้นที่มัน แต่ละจังหวัดจัดสอบเอง ใครจะสอบที่ไหนก็ไปสมัครที่นั่น เราก็กลับมาสมัครที่ตราดบ้านเรา…สอบคราวนี้ไม่ได้ขยันอ่านมากมาย อาศัยความรู้เดิม แล้วก็ทบทวนเรื่องที่ไม่เข้าใจเพิ่มเติมเท่านั้น เช่น ภาพความสัมพันธ์ อนุกรม กฎหมายและระเบียบต่าง ๆ …ใจจริงก็ไม่ได้อยากสอบบรรจุได้ หรือถ้าได้ก็อยากได้ลำดับหลัง ๆ หน่อย จะได้เรียกบรรจุช้า เพราะอยู่ที่นี่มีความสุขดี เด็ก ๆ น่ารัก สนิทกับเด็กที่ปรึกษามาก ๆ กะว่าจะตามเป็นที่ปรึกษาไปจนกระทั่งจบ…พอประกาศผลสอบบรรจุฯ ไม่ทันได้เข้าไปตรวจดูผลเอง เพื่อนรักก็โทรมาบอก ยังแทบไม่เชื่อหูตัวเอง ว่าจะติดกับเค้า แถมติดในลำดับที่ ๒ ของวิชาเอกคอมฯ ซะด้วย…ทั้งใจหายที่จะต้องจากเด็ก ๆ แถมบรรจุใหม่เงินเดือนก็นิดเดียว (แอบงก 555) แต่เอาเถอะอยู่ใกล้บ้านนี่นะ คงจะดีกว่านี้
ครูประถมฯ… ตอนรู้ผลสอบบรรจุ ก็เริ่มค้นดูตำแหน่งว่างที่จะเลือกบรรจุ เห็นชื่อโรงเรียนแล้วเลือกไม่ถูกเลย เพราะแทบจะไม่รู้จักเลยสักโรงเรียนเดียว เนื่องจากเป็นโรงเรียนประถมฯ เกือบทั้งหมด และอยู่ต่างอำเภอ ตัวเองเป็นคนอำเภอเมือง ที่ไม่ค่อยรู้จักอำเภออื่น ๆ เพราะเรียนจบ ม.๓ ที่โรงเรียนประจำจังหวัด แล้วก็มาเรียนที่ กทม. นั่นแหล่ะ ตอนเป็นครูอัตราจ้างก็สอนมัธยมฯ อยู่แต่ในโรงเรียน เพราะช่วยงานเอกสารวิชาการเป็นส่วนใหญ่…มีชื่อโรงเรียนหนึ่งเห็นแล้วยังอ่านออกเสียงไม่ถูก ทีนี้ก็ต้องอาศัยถามคนอื่น แล้วก็ค้นดูข้อมูลของโรงเรียนจากเว็บไซต์โรงเรียน เป้าหมายของตัวเองก็คือ อยากอยู่โรงเรียนเล็ก ๆ เด็กน้อย ๆ ครูน้อย ๆ ไม่ใช่เพื่อจะได้สอนน้อย ๆ หรือทำงานน้อย ๆ จะได้สบาย แต่ที่อยากอยู่โรงเรียนเล็ก ๆ เพราะจะได้ทำงานเต็มที่ มีโอกาสได้พัฒนาตนเองเต็มที่ เพราะไม่เคยเชื่อว่าตัวเองเก่ง มีอีกหลายเรื่องที่ต้องเรียนรู้เพื่อนำมาใช้สอนและพัฒนาเด็ก ๆ อนาคตของชาติ…เทคนิคแรกเลย ก็คือ ค้นจากชื่อโรงเรียนในอากู๋เรานี่แหล่ะ ฮิตมานานจริง ๆ หาอะไรก็เจอ…ถ้าโรงเรียนไหนมีเว็บฯ ก็แสดงว่าเค้ามีครูคอมฯ แล้ว มีคนรับผิดชอบงานนี้แล้ว ถ้าเราไปบรรจุที่นั่น เราก็จะไม่ได้ทำงานนี้ ซึ่งเป็นงานที่ตั้งใจ…อืม ลืมบอกไป ว่าตอนอยู่ที่สอยดาว ก็ทำเว็บฯ ไว้เหมือนกัน …แล้วก็มาลงตัวที่โรงเรียนเล็ก ๆ โรงเรียนนึง ไม่มีเว็บฯ โรงเรียน แล้วก็อยู่ติดทะเล…เลยเลือกโรงเรียนนี้ …โรงเรียนบ้านตาหนึก แรก ๆ ก็นั่งรถตู้ประจำไปกลับทุกวัน ตอนมาสอนจึงได้รู้ว่า จริง ๆ แล้ว โรงเรียนนี้เค้าก็ดังอยู่เหมือนกัน มีผลงานเยอะ และผ่านการประเมินจาก สมศ.ในยุคแรก ๆ… ผ่านไปหนึ่งเทอม จึงตัดสินใจมาอยู่บ้านพักครู กับเพื่อนครู…อยู่ที่นี่การจัดการเรียนการสอนก็ทำได้ยากหน่อย โดยเฉพาะวิชาคอมพิวเตอร์ เนื่องจากมีไม่กี่เครื่อง ต้องสอนหลายวิชา แต่ก็ได้ประสบการณ์อีกแบบ ทำให้เข้าใจครูประถมฯ ว่าจริง ๆ แล้วไม่ได้ง่ายเลย ที่ครูคนเดียวจะสอนหลาย ๆ วิชา ต้องประจำชั้น (ได้รื้นฟื้นเรื่องการแจกลูกสะกดคำ ในวิชาภาษาไทย ป.๓ วรรณยุกต์ที่เปลี่ยนรูปไป เพราะเป็นเรื่องที่ลืมเลือนไปแล้ว พออ่านคล่องเขียนคล่อง ก็ไม่ต้องสะกดแบบเดิมอีก….ที่นี่ต้องอยู่กับเด็ก ๆ ทั้งวัน ไม่มีชั่วโมงว่างเลย แม้แต่พักกลางวัน ก็ต้องดูแลเด็ก ๆ ที่โรงอาหาร จะออกไปหาอะไรกินข้างนอกก็ไม่ได้ (จริง ๆ แถวนั้น ก็ไม่มีร้านให้ออกไปไหนหรอก 555) แต่ก็สมใจนึกจริง ๆ เพราะไม่มีครูคอมฯ อะไรที่เกี่ยวกับเทคโนฯ ก็ได้ไปอบรมฯ สมัยนั้นมีอบรมฯ เยอะมาก เพราะเริ่มมีการสนับสนุนอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ใหม่ ๆ เพิ่มเติม…แต่ทางที่ชอบก็ยังเป็นด้านเว็บฯ และกราฟิก โปรแกรมอื่น ๆ หรือการดูแลระบบก็ไม่ค่อยถนัด…เพื่อนครูที่นี่ก็เก่ง ๆ และขยันมาก ๆ ทำได้ทุกอย่าง ผอ. ก็ใจดีสนับสนุนเต็มที่ ติดแต่เด็กประถมฯ เล็กไปหน่อยไม่ค่อยเหมาะกับวิชาคอมพิวเตอร์ …พอมีเด็กส่งแข่งขันได้บ้าง แต่ก็แค่เข้าร่วมเท่านั้น ผลงานชิ้นโบแดงกลับเป็นการฝึกซ้อมเด็กประกวดร้องเพลงกล่อมเด็ก ของ อบต. คลองใหญ่ ได้ชนะเลิศ เพราะส่วนตัวชอบร้องเพลง…ก็เอาแผ่นซีดีเพลงกล่อมเด็กมาฟัง จดเนื้อร้อง แล้วถอดเนื้อร้องให้เด็ก ให้เด็กมานั่งฟัง ร้องตาม จนจำเนื้อได้ จึงซ้อมร้อง ส่งเข้าประกวด ไม่ได้หวังรางวัลอะไร แค่อยากให้เด็กได้ประสบการณ์ จะบอกเด็ก ๆ เสมอ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน… งานนี้ประสบความสำเร็จ ก็เลยปลื้มใจมาก ๆ ที่ได้ใช้ความสามารถพิเศษให้เกิดประโยชน์อีกครั้ง หุหุ
ครูมัธยมฯ…อยู่โรงเรียนประถมฯ สามปี ก็เลยลองเขียนย้ายเข้าเมืองดู จริง ๆ อยู่ที่เดิมก็เริ่มเข้าที่เข้าทาง แต่เนื่องจากมีภาระหน้าที่ แล้วก็อยากกลับมาอยู่ใกล้บ้าน ที่ใหม่ก็สืบ ๆ ดูแล้วไม่มีตำแหน่งครูคอมฯ …พอย้ายมาแรก ๆ ก็หนักใจ …เด็กน่ารักเว่อร์ 5555 ตามประสาเด็กผู้ชายนะ เพราะเด็กผู้ชายเยอะมาก เกือบ ๘๐ เปอร์เซ็นต์เลยมั๊ง มีโอกาสได้พัฒนาตัวเองเพิ่มเติมอีก อุปกรณ์เทคโนฯ ต่าง ๆ ก็ค่อนข้างสมบูรณ์ พร้อม การเรียนการสอนสะดวกสบาย แต่ไม่ง่าย…เพราะเน้นวิชาการมากไม่ได้ เหนื่อยกับการอบรมพฤติกรรมซะมากกว่า แต่ก็พอมีเด็กให้ปั้นไปแข่งขันได้บ้าง แม้จะยังไม่ถึงดวงดาว …แต่ก็ให้เด็กได้ประสบการณ์จากข้างนอกโรงเรียนบ้าง …ทั้งยังเป็นการเพิ่มประสบการณ์ครูอีกด้วย จะได้นำมาพัฒนาเด็ก ๆ ได้ถูกทาง…อยู่ที่นี่รับผิดชอบสอนชั้น ม.๑ – ม.๓ วิชาพื้นฐาน และเพิ่มเติม ตรงกับความถนัดและสนใจพอดีคือสอนคอมพิวเตอร์กราฟิก และการสร้างเว็บไซต์ ผู้บริหารก็ให้การสนับสนุนอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นด้านการทำงาน การสอน การพัฒนาตนเอง ขอบคุณ ผอ.ประเวศ และ รองฯกาญจนา (ป้าหน่อย) ค่า
ปี ๒๕๕๓ อบรมการทำอีบุ๊ค จึงนำมาเปิดสอนวิชาเพิ่มเติมในระดับชั้น ม.๒ ปีที่สองส่งนักเรียนเข้าร่วมแข่งขันจนได้เป็นตัวแทนเขตฯ ไปแข่งขันระดับภาค (ได้สองขั้นก็ปีนี้แหล่ะ ไม่นึกไม่ฝันว่าจะได้กับเค้าเลยในชีวิตนี้ ปลื้ม สุด ๆ ไม่ใช่ที่เงินอย่างเดียว แต่เป็นเหมือนขวัญกำลังใจในการทำงานต่อไปด้วย)…ซึ่งในสาขาเทคโนโลยีจะส่งนักเรียนเข้าร่วมแข่งขันหลายรายการ ทุกรายการที่มีความพร้อม ทั้งครูและนักเรียน …ฝึกซ้อมนักเรียนทั้งในคาบว่างช่วงพักกลางวัน หลังเลิกเรียน และวันหยุดเสาร์ อาทิตย์…
ปี ๒๕๕๔ ร่วมกับเพื่อนร่วมงาน ฝึกซ้อมนักเรียนเข้าร่วมแข่งขันการทำอาหารหลายรายการ และได้เป็นตัวแทนไปแข่งขันระดับภาคอีก ๔ รายการ…นับว่าเป็นความร่วมมือจริง ๆ ที่ทำให้ประสบความสำเร็จ เพราะคนเดียวคงไปไม่ได้ไกลขนาดนี้ แม้ตอนแรกจะไม่ได้หวังว่าจะมาถึงระดับภาคฯ แต่ก็พยายามทำให้ดีที่สุด..ขอบคุณหัวหน้ากลุ่มการงานฯ อ.สวรส รอดน้อย และ อ.ธนาภรณ์ ถัดหลาย ทีมงานฝึกซ้อมนักเรียนในการแข่งขันทำอาหารดังกล่าว
ปี ๒๕๕๕  การพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง จากโครงการของ สทร. (สำนักเทคโนโลยีและสื่อฯ) ได้จัดอบรมโครงการครูทูปฯ ซึ่งเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ตนเองสนใจ คือการทำคลิปวิดีโอ เพราะปัจจุบันความเจริญก้าวหน้าของเทคโนฯ และอุปกรณ์จำพวกกล้องดิจิตอลต่าง ๆ ราคาถูกลงมาก โปรแกรมตัดต่อก็ทำได้ง่าย จึงสนใจสมัครเข้าร่วมโครงการ โดยส่งคลิปที่ทำเองแบบงู ๆ ปลา ๆ ไม่มีหลัก และทฤษฎีอะไรมากมายนัก พอได้เข้าร่วมโครงการ หลังจากกลับมาจากอบรมฯ ก็นำไปใช้โดยการเปิดเป็นกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ชุมชุมหนังสั้น มีสมาชิกชุมนุมได้ฝึกทำหนังสั้น…หากมีข่าวประกวดหนังสั้น ก็จะส่งเข้าร่วมประกวดอยู่เสมอ…ผลงานภาคภูมิใจคือ โครงการบอกรักพ่อฯ ที่เป็นการประกวดคลิปหนังสั้นเกี่ยวกับในหลวง โดยเป็นการบอกรักพ่อผ่านคลิปวิดีโอสั้น ความยาวไม่เกิน ๓ นาที … โดยมีแนวคิดจากความรู้สึกของปวงชนชาวไทยคนหนึ่ง ที่ครั้งหนึ่งในชีวิต ที่จะได้ชื่นชมพระบารมีอย่างใกล้ชิด … โดยความร่วมมือกับ อ.เครือวัลย์ สังข์สูงเนิน เป็นผู้ถ่ายทอดความรู้สึก เนื่องจากวัยวุฒิ และคุณวุฒิ เพราะมีรางวัลครูดีการันตีหลายรางวัล และนักเรียนเด็กชายปัณณวุฒิ นุตัน เป็นผู้ตัดต่อคลิปวิดีโอ ส่วนตัวครูปอเองเป็นผู้กำกับ และเขียนบท (ตำแหน่งดูเท่ห์มาก ๆ)  ต้องขอขอบคุณอาจารย์เครือวัลย์ ที่ช่วยถ่ายทอดเรื่องราวได้น่าประทับใจ ทำให้คลิปผ่านเข้ารอบคัดเลือก ๑๖ ทีม…ณ วันนี้ กำลังรอลุ้นผลโหวตอยู่ ระหว่างมาอบรมฯ Social Media ได้รับโทรศัพท์จากช่อง ๕ ให้มาออกรายการเพื่อพูดถึงแนวคิดการทำคลิปวิดีโอชิ้นนี้ ตื่นเต้นมักมั่ก ^____^…ไว้มีข่าวความคืบหน้าจะมาเล่าให้ฟังจ้า ก่อนอื่น อย่าลืมกดโหวต ฟรี นะจ๊ะ…โครงการดี ๆ แบบนี้ รวมใจไทยเป็นหนึ่ง.com จริง ๆ